วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568

ททท.-รัฐเอกชนรับคาราวานทัวร์รถ/บิ๊กไบค์มาเลเซียบูมหาดใหญ่สงขลา สตูล-เร่งโปรโมท HATYAI NEW YEAR 2026

ททท.-รัฐเอกชนหาดใหญ่รับคาราวานทัวร์รถ/บิ๊กไบค์มาเลเซีย

บูมสงขลา-สตูลโปรโมทเคาน์ดาวน์ HATYAI NEW YEAR 2026

ททท.นำรัฐเอกชนหาดใหญ่ต้อนรับคณะคาราวานรถและบิ๊กไบค์มาเลเซียเที่ยวสงขลา สตูล หลังน้ำท่วมใหญ่

 
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT #HadyaiNewYear2026 #SmileSouthMalaysiaThailandCaravan


ททท.นำทีมรัฐเอกชนจัดกิจกรรม Smile @ South, Malaysia – Thailand Caravan” รับคาราวานรถยนต์ กับบิ๊กไบค์มาเลเซียออนทัวร์ หาดใหญ่/สงขลา สตูล ผนวกโปรโมทเคาน์ดาวน์ยิ่งใหญ่ “HATYAI NEW YEAR 2026” 30-31 ธ.ค.นี้ ขานรับสัญญาณตลาดฟื้นตัวเร็วสัปดาห์มาเพิ่ม 1.5 หมื่นคน/วัน


นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.จัดกิจกรรม Smile @ South, Malaysia – Thailand Caravan ต้อนรับคณะคาราวานรถยนต์และมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์กว่า 50 คัน เดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ และรัฐปีนัง มาเลเซีย ผ่านด่านสะเดาสู่หาดใหญ่ จ.สงขลา และจ.สตูล ระหว่างวันที่ 23-26 ธันวาคม 2568 ช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นและประชาสัมพันธ์ความพร้อมเมืองหาดใหญ่เข้ามาเพิ่มช่วงเทศกาลปีใหม่ ในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของชาวมาเลเซีย รวมทั้งถึงมิตรภาพที่ดียังมั่นคงแข็งแกร่งระหว่าง2 ประเทศ พร้อมจะนำการท่องเที่ยวก้าวเติบโตไปข้างหน้าด้วยกัน โดยนอกจากกิจกรรมคาราวาน

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย ททท. ยังได้ร่วมกับเทศบาลนครหาดใหญ่ สงขลา และพันธมิตรรัฐและเอกชนในพื้นที่หาดใหญ่เตรียมจัดยิ่งใหญ่ HATYAI NEW YEAR 2026 วันที่ 30-31 ธันวาคม 2568 บริเวณถนนธรรมนูญวิถี เป็นอีเวนต์ส่งท้ายปลายปีชวนนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามา พร้อมช่วยเหลือผู้ประกอบการและฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่ด้วยวิธี Booster Shot ให้หาดใหญ่กลับมาคึกคัก


“คณะคาราวานมาเลเซีย”มีโปรแกรมเดินทางสำรวจพื้นที่เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวภาคใต้ 2 จังหวัด  

จังหวัดแรก หาดใหญ่ จ.สงขลา เช่น สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ นั่งหาดใหญ่เคเบิ้ลคาร์ กระเช้าลอยฟ้าแห่งแรกของไทยสู่ยอดเขาคอหงส์ที่ประดิษฐานพระพุทธมงคลมหาราช พระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่  แวะชอปปิงตลาดกิมหยง

พื้นที่ 2 จ.สตูล เพื่อเข้าชมแหล่งท่องเที่ยว อาทิ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสตูล ล่องเรือชุมชนท่องเที่ยวสุไหงตำมะลังเพื่อชมนกอินทรีและป่าชายเลน แวะชมสะพานข้ามกาลเวลาในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา และน้ำตกวังสายทอง



สถิตินักท่องเที่ยวมาเลเซียมาไทย ตั้งแต่ 1 มกราคม – 21 ธันวาคม 2568 มีจำนวน 4,378,522 คน ส่วนใหญ่เดินทางข้ามด่านชายแดนทางบก 57  % ทางด่านสะเดาซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาเลเซียนิยมเดินทางเข้าไทยมากที่สุดเฉลี่ยปกติ 7,000 คน/วัน แม้สถานการณ์อุทกภัยจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวมาเลเซียชะลอตัวช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนธันวาคม แต่แนวโน้มตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมนี้ มีสัญญาณเชิงบวกดีขึ้น ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเข้าไทยทั้งหมด รวมทางบกและทางอากาศเฉลี่ย 13,000 – 15,000 คน/วัน กลับมาเป็นเบอร์ 1 แล้ว


มาเลเซียนิยมแหล่งท่องเที่ยวในไทย ได้แก่ สงขลา กรุงเทพฯ กระบี่ ภูเก็ต และชลบุรี ส่วนใหญ่เดินทางด้วยตนเอง (FIT) กว่า 90 % เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางซ้ำ (Repeat Visit) 70 % ชอบมาไทยช่วงวันหยุด เพื่อพักผ่อนกับเพื่อนฝูง และครอบครัว ชื่นชอบอาหารไทย นวดสปา ชมแสงสียามค่ำคืน แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์

ททท. พร้อมจะร่วมกับพันธมิตรการท่องเที่ยวในและต่างประเทศเร่งฟื้นฟูเมืองหาดใหญ่ สร้างความเชื่อมั่นด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาด ทำประชาสัมพันธ์ความพร้อม ฟื้นคืนธุรกิจและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมให้กลับมาต้อนรับนักท่องเที่ยวนานาชาติ โดยเฉพาะมาเลเซีย ฟื้นตัวและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ส่วนการต้อนรับคาราวานรถยนต์ 30 คัน กับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ 22 คัน มีผู้เข้าร่วมกว่า 100 คน พร้อม KOL ออกเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เมื่อ 23 ธันวาคม 2568 ผ่านด่านสะเดา เข้าสู่ อำเภอหาดใหญ่ สงขลา ททท. ได้จัดพิธีปล่อยขบวนคาราวานและกิจกรรมต้อนรับเมื่อ 24 ธันวาคม 2568 ที่โรงแรมบุรีศรีภู สงขลา นำโดยนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. นายชัย อรุณานนท์ชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและกรรมการ ททท. นายจีระยุ จารุกิตติวรกานต์ ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและกรรมการ ททท. นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท.

ดร.สิทธิพงษ์ สิทธิภัทรประภา นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา นายสมพล ชีววัฒนาพงศ์ ที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา นายวรัชญ์ ปริสุทธิ์กุล รองประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา นางสาวปภัสราภรณ์ ตันธนวงศ์ ประธาน YEC Songkhla นางสาวอัยดา อูเจ๊ะ นายกสมาคมการค้าการท่องเที่ยวฮาลาลไทย-อาเซียน และคุณวรัญญา ดีหนัก เลขาสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา

 





ครม.ชมส่งท้าย “VIJIT CHAO PHRAYA 2025” 45วันรายได้5.5พันล้าน-ททท.จัดใหม่12พ.ย.-12ธ.ค.69

“ครม.-อรรถกร”ชมส่งท้าย VIJIT CHAO PHRAYA 2025”

45วันทำรายได้5.5พันล้าน-ททท.จัดใหม่12พ.ย.-12ธ.ค.69

อรรถกร ศิริลัทธิยากร รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวนำครม.ชมส่งท้ายงาน VIJIT CHAO PHRAYA 2025

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT #VijitChaophraya2025 

“ครม.-รมว.อรรถกร” ยกทีมชมบิ๊กอีเวนต์ VIJIT CHAO PHRAYA 2025” ส่งท้ายมหาปรากฎการณ์ท่องเที่ยวแสงสีเสียงริมเจ้าพระยา ตลอด 45 วัน ทำเงินสะพัด 5,500 ล้านบาท “ผู้ว่าฯ ททท.” ลั่นครั้งหน้าจัดยิ่งใหญ่กว่าเดิม 12 พ.ย.-12 ธ.ค.69

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ตนพร้อมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ร่วมชมวันส่งท้ายงาน “VIJIT CHAO PHRAYA 2025” ปรากฏการณ์แห่งแสง  สี ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ภายใต้ “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.) เมื่อค่ำคืนที่ 23 ธันวาคม 2568 จัดขึ้นส่งท้ายมหาปรากฏการณ์ ความสวยงามริมสองฝั่งเจ้าพระยา 45 คืน โดยได้เปลี่ยนแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นเวทีจัดแสดงอีเวนต์ระดับโลก ทำเงินสะพัดกว่า 5,500 ล้านบาท

 VIJIT CHAO PHRAYA 2025” ททท.จัดอีเวนต์ใหญ่ขึ้นเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงปลายปี 2568 ทำเศรษฐกิจคึกคักต่อเนื่อง 45 วัน ในบริเวณสถานที่สำคัญ ตลอดริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร นำเสนอความสวยงามวิจิตรตระการตาแม่น้ำเจ้าพระยา ผสานนวัตกรรมเทคโนโลยีด้วยการแสดงแสง สี เข้ากับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่เป็นจุดแข็งของไทย สร้างการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา เกิดการกระจายรายได้อย่างทั่วถึงผู้ประกอบการท่องเที่ยว ร้านค้า โรงแรม  ชุมชนในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ ธุรกิจเรือท่องเที่ยวและเรือโดยสารมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นช่วงการจัดงาน เติมเต็มบรรยากาศการท่องเที่ยวไทยช่วงปลายปีคึกคักมีสีสันมากยิ่งขึ้น เสริมภาพลักษณ์กรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก

สามารถเพิ่มนักท่องเที่ยวช่วงปลายปีตลอดการจัดงานคาดจะมีผู้เข้าชมกว่า 1.7 ล้านคน สร้างเงินหมุนเวียน กว่า 5,500 ล้านบาท งาน “VIJIT CHAO PHRAYA 2025” สะท้อนถึงการใช้กิจกรรมระดับประเทศเป็นเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มจุดขายการท่องเที่ยวไทยในสายตานานาชาติ ต่อยอดเสน่ห์แม่น้ำเจ้าพระยาให้เป็นแลนด์มาร์กการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและอีเวนต์ระดับโลก


นางสาวฐาปนีย์  เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า การจัด “VIJIT CHAO PHRAYA    ปี 2568 ทำต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 สร้างผลสำเร็จเป็นอย่างดี โดยพันธมิตรภาครัฐและเอกชนร่วมรังสรรค์การแสดงตลอดสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งหมด 15 จุด แต่ละจุดสะท้อนอัตลักษณ์ของพื้นที่ผ่านแนวคิดและเทคโนโลยีแสง สี เสียง แตกต่างกัน เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนในการใช้อีเวนต์เชิงวัฒนธรรมและเทคโนโลยีมาสร้างประสบการณ์ใหม่ให้การท่องเที่ยวไทย ดึงความสนใจจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มมากขึ้นทั้ง กลุ่มยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง ทำให้รายได้กระจายไปยัง ผู้ประกอบการเรือ โรงแรม ร้านอาหาร ชุมชนริมแม่น้ำ


ปี 2569 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย ททท. คาดจะกำหนดจัดงาน “VIJIT CHAO PHRAYA 2026จะเริ่ม 12 พฤศจิกายน - 12 ธันวาคม 2569 โดยเตรียมยกระดับจัดให้ยิ่งใหญ่ สมบูรณ์แบบมากขึ้น นอกเหนือจากนำเสนอเสน่ห์ความงดงามแสงสีริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว จะเป็นเวทีสำคัญเพิ่ม “เสน่ห์ไทย” ผ่านศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิต ความคิดสร้างสรรค์ ตั้งเป้าหมายเพิ่มนักท่องเที่ยวไทยและชาวต่างชาติมากขึ้น เพื่อเพิ่มระยะเวลาพัก กระตุ้นการใช้จ่ายหลั่งไหลเข้าสู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเติบโตต่อเนื่องมากขึ้น


บางจากมอบบัตรเติมน้ำมันจิตอาสา7จุดรับส่งประชาชนร่วมพิธีพระอภิธรรมพระบรมศพพระพันปีหลวง

บางจากมอบบัตรเติมน้ำมันจิตอาสา7จุดรับส่งประชาชน

เดินทางพิธีสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระพันปีหลวง


เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #บางจาก #มอบบัตรเติมน้ำมันจิตอาสา 

บางจากฯ ร่วมสนับสนุนบัตรเติมน้ำมันกับน้ำให้กลุ่มจิตอาสา “รถมอเตอร์ไซค์” 7 จุด รับส่งประชาชนช่วงพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง


นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยวา ได้ส่งมอบบัตรเติมน้ำมันบางจากและน้ำดื่มบางจาก ให้กับทางหัวหน้ากลุ่มจิตอาสาผู้ปฏิบัติภารกิจให้บริการรถมอเตอร์ไซค์รับส่งประชาชนที่เดินทางไปร่วมถวายสักการะพระบรมศพ ช่วงพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เพื่อร่วมสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่และปันน้ำใจแก่จิตอาสาที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ อุทิศเวลาส่วนตัว พร้อมให้บริการประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยมี นายผุดพงส์ พ่วงสุวรรณ ตัวแทนจักรยานยนต์จิตอาสา ร่วมใจทำดีเพื่อแม่ (บก.จร.) รับมอบ ณ ประตูเทวาภิรมย์

            พื้นที่ให้บริการรับส่งมีจำนวนรวม 7 จุด ดังต่อไปนี้ 1. ประตูเทวาภิรมย์ 2.ตึกถาวรวัตถุ (ตึกแดง) 3.ป้อมมหากาฬ 4.อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย  5.สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง 6.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และ 7.เชิงสะพานพระปิ่นเกล้าฝั่งพระนครฯ


 

ททท.-4พันธมิตรเปิด“Amazing Hatyai Happy Bus” รถฟรี!!ท่องเที่ยวในหาดใหญ่2เส้นทาง24ธ.ค.-28ก.พ.69

 

ททท.-4พันธมิตรสงขลาเปิดAmazing Hatyai Happy Bus”

รถฟรี!!นักท่องเที่ยว-ประชาชน2เส้นทาง24ธ.ค.-28ก.พ.69



ททท.จับมือกับ 4 พันธมิตรสงขลา เปิด “Amazing Hatyai Happy Bus” บริการรถฟรี 24 ธ.ค.68-28 ก.พ.69

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT #AmazingHatyaiHappyBus 

ททท.เปิดโปรเจกต์ “Amazing Hatyai Happy Bus” ผนึกสงขลา 4 พันธมิตร ให้นักท่องเที่ยวไทย ต่างชาติ ประชาชน ขึ้นรถสาธารณะฟรีในเมืองหาดใหญ่ 2 เส้นทาง 3 เดือน เริ่มแล้ว 24 ธ.ค.68-28 ก.พ.69 ควบโครงการ Smile@Hatyai คืนรอยยิ้มให้ชาวหาดใหญ่” ฟื้นเศรษฐกิจคึกคักโดยเร็ว

นางสาวฐาปนีย์  เกียรติไพบูลย์   ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. ทำโครงการ “Amazing Hatyai Happy Bus” จับมือกับพื้นที่ 4 พันธมิตร นำโดยหอการค้าจังหวัดสงขลา และ YEC Songkhla ร่วมกับภาคีเครือข่าย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา และสำนักงานขนส่งจังหวัดสงขลา ร่วมเติมรอยยิ้ม ส่งต่อความสุขแก่ชาวหาดใหญ่ จัดบริการฟรี รถโดยสารสาธารณะในเขตเมืองหาดใหญ่ 2 เส้นทางหลัก 3 เดือน ระหว่าง 24 ธันวาคม 2568 – 28 กุมภาพันธ์ 2569 เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทาง สร้างความเชื่อมั่นช่วงฟื้นฟูเมืองหลังอุทกภัยใหญ่ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวคาดจะมีผู้ใช้บริการตลอดโครงการไม่น้อยกว่า 15,000 คน


ททท.กับพันธมิตรร่วมมือกันอำนวยความสะดวกดังกล่าว เนื่องจากช่วงอุทกภัยใหญ่ยานพาหนะในพื้นที่บางส่วนได้รับความเสียหาย และสภาพการจราจรกับการเดินทางภายในเมืองยังขาดความคล่องตัว เมื่อมีโครงการนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติสามารถใช้บริการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวและใช้ชีวิตในหาดใหญ่ ซึ่งเป็นเมืองหลักด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวสำคัญของภาคใต้ตอนล่าง เป็นจุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย นิยมใช้ขนส่งสาธารณะเป็นหลัก

โครงการ Amazing Hatyai Happy Bus ให้บริการฟรี “รถโดยสารมินิบัส” มาตรฐานกรมการขนส่งทางบก 4 คัน ขนาด 20 ที่นั่ง/คัน รับส่งภายในเขตเมืองหาดใหญ่ 2 เส้นทางหลัก ได้แก่


เส้นทางที่ 1 สถานีรถไฟหาดใหญ่–มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ครอบคลุมโรงแรม แหล่งท่องเที่ยว และจุดสำคัญในเขตเมือง

เส้นทางที่ 2 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์–วงเวียนน้ำพุ–สถานีรถไฟหาดใหญ่ ซึ่งครอบคลุมย่านการค้าและแหล่งเศรษฐกิจใจกลางเมือง

ให้บริการระหว่าง 24 ธันวาคม 2568 -28 กุมภาพันธ์ 2569 ตั้งแต่เวลา 06.00–19.00 น. ความถี่ทุก 1 ชั่วโมง

ติดตามตำแหน่งรถแบบเรียลไทม์ทางเว็บไซต์ https://schoolbustracking.one.th/user-tracking

บริการรถสาธารณะดังกล่าวจะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว เดินทางเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว ร้านค้า โรงแรม สถานประกอบการต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก ปลอดภัย พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวในพื้นที่ให้กลับมาคึกคักอย่างรวดเร็วเริ่มตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป



Amazing Hatyai Happy Busเป็นอีกหนึ่งมาตรการสำคัญการฟื้นฟูเมืองหาดใหญ่ ทั้งมิติการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของประชาชน ตอกย้ำความพร้อมที่จะกลับมาต้อนรับนักท่องเที่ยวเต็มรูปแบบอีกครั้ง   

ผู้ว่าฯ ฐาปนีย์กล่าวว่า ททท.ยังได้ทำแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวหลังอุทกภัยคู่ขนานไปด้วย ภายใต้แนวคิด Smile@Hatyai คืนรอยยิ้มให้ชาวหาดใหญ่” โดยทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมมือกัน เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยว สร้างมาตรฐานด้านความปลอดภัย เสริมสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ผ่านการสื่อสารฟื้นฟูภาพลักษณ์ย่านการค้าและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในเมืองหาดใหญ่ พร้อมจัดกิจกรรมและอีเวนต์สร้างบรรยากาศการท่องเที่ยว ทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดร่วมกับสายการบิน การขยายกลุ่มตลาดไมซ์ (MICE) รวมถึงกระตุ้นไทยเที่ยวไทย

พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มเป้าหมายอย่างเต็มศักยภาพตั้งแต่ปลายปี 2568 ต่อเนื่องจนถึงการเข้าสู่สถานการณ์ปกติปี 2569 นำอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจหาดใหญ่ สงขลา เติบโตต่อเนื่องอย่างเข้มแข็งต่อไป

 

วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568

ททท.โชว์พลัง“ลิซ่า : LISA Effect” ม.ค.ุ69ปล่อยหนังโฆษณาตัวอย่างดึงทั่วโลกเที่ยวทั่วไทยปี’69

ททท.ใส่เกียร์เร่งรับปีใหม่โชว์พลัง“ลิซ่า : LISA Effect”

ปล่อยหนังโฆษณาตัวอย่างดึงทั่วโลกเที่ยวทั่วไทยปี’69

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT #LisaEffect #Amazing Thailand Ambassador

ททท.โชว์ปรากฎการณ์รับปีใหม่ใช้ “ลิซ่า : LISA Effect” แบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลก Amazing Thailand ต้น ม.ค.68 ลุยปล่อยหนังโฆษณาตัวอย่างโปรโมท “แหล่งท่องเที่ยวทั่วไทย” ปลุกตลาดในและต่างประเทศทั่วโลกเลือกไทยเป็นจุดหมายท่องเที่ยวมุมใหม่

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าททท. จับมือกับ  “ลิซ่า :ลลิษา มโนบบาล” ศิลปินไทยมีชื่อเสียงระดับโลกเป็นทั้งนักร้อง นักแสดง นักเต้น และแรปเปอร์ และ “Amazing Thailand Ambassador” เตรียมสร้างปรากฎการณ์ครั้งใหม่ท่องเที่ยวทั่วไทย LISA Effect” ที่จะส่งแรงกระเพื่อมทั้งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเมืองไทยปี 2569 ต้นเดือนมกราคมนี้พร้อมปล่อย “ภาพยนตร์โฆษณาตัวอย่าง” (Teaser) เป็นพลังขับเคลื่อนแบรนด์ Amazing Thailand ปลุกกระแสนิยมจากนักท่องเที่ยวในและต่างประเทศทั่วโลก


“ทุกย่างก้าวของลิซ่า” เป็นมากกว่าการสร้างแรงบันดาลใจให้แฟนคลับ นั่นคือสามารถยกระดับการท่องเที่ยวไทยให้เป็นจุดหมายที่นักเดินทางเฝ้ารอสื่อสารผ่านแบรนด์ Amazing Thailand ช่วยเสริมพลังการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมไทยให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ทั้งภาพลักษณ์ ความน่าสนใจ ต่อยอดปรากฏการณ์ “LISA Effect” ให้กลายเป็นพลังสร้างสรรค์ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ททท. ตั้งเป้าหมายสร้างกระแสบิ๊กอิมแพ็คครั้งสำคัญ เพื่อจุดประกายแรงบันดาลใจและ Call to Action ให้เกิดการเดินทางจริงหลังเดือนตุลาคม 2568 ได้ประกาศว่า “ลิซ่า : ลลิษา มโนบาล” ตอบรับเป็น “Amazing Thailand Ambassador” โปรโมทการท่องเที่ยวประเทศไทย เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้สร้างกระแสตอบรับที่ดีดึงดูดผู้คนในสังคมออนไลน์เข้าถึงอย่างล้นหลาม


“คนไทย” พร้อมใจช่วยกันนำเสนอ “สถานที่ท่องเที่ยว” ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศตามรอยลิซ่า Amazing Thailand Ambassador เพื่อไปเยือนและชวนคนไทยท่องเที่ยว ททท. รวบรวมความเห็นในสังคมออนไลน์ดังกล่าวนำมาร่วมสร้างสรรค์และผลิตชิ้นงานและภาพยนตร์โฆษณา พร้อม Key Visual เป็นการเปิดช่องทางให้คนไทยได้มีส่วนร่วมเชิญชวนนักท่องเที่ยวออกเดินทางไปค้นพบของเมืองไทยในมุมมองใหม่ที่ได้นำเสนอผ่าน “ลิซ่า Amazing Thailand Ambassador” ผู้ส่งต่อความภูมิใจในความเป็นไทยได้ในวงกว้าง ด้วยผลงานและความสำเร็จต่อเนื่องมาตลอด

            “ลิซ่า” ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพและอิทธิพลอันทรงพลังของศิลปินไทยสามารถสร้างอิมแพคได้อย่างแท้จริง ปรากฏการณ์ “LISA Effect” กลายเป็นพลังแห่งการสื่อสารที่มีน้ำหนักมหาศาล ดังนี้



มิวสิกวิดีโอเพลง “LALISA” ปี 2564 ปล่อยออกมาด้วยการนำเสนอความงดงามและเรื่องราวที่ผูกพันของจังหวัด บุรีรัมย์ และ ปราสาทหินพนมรุ้ง สัญลักษณ์ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่น จนทำให้กลายเป็นจุดเช็กอินที่นักท่องเที่ยวอยากไปเยือนเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวเติบโต 2 เท่า ตามรายงานข้อมูลอขงอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง แล้วยังช่วยส่งผลต่อเศรษฐกิจชุมชนในพื้นที่รอบด้าน สะท้อนเรื่องราวความสวยงามของวิถีไทยออกสู่สายตาชาวโลก

เช่น “บ้านสวนริมมูล” มุมถ่ายรูปสวย ๆ กลายเป็นแลนด์มาร์กที่แฟนคลับและผู้มาเยือนไม่พลาดเก็บภาพความทรงจำ “เมนูลูกชิ้นยืนกินหลังสถานีรถไฟบุรีรัมย์” ที่ลิซ่าพูดถึงก็กลายเป็นไวรัลในโลกโซเชียล มีผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจทำให้ธุรกิจท้องถิ่นเติบโตเป็นรูปธรรม

เปิดตัวซิงเกิล “Rockstar” เมื่อเดือนมิถุนายน 2567 พร้อมมิวสิกวิดีโอที่ใช้โลเคชั่นถ่ายทำในกรุงเทพมหานคร ดึงดูดนักท่องเที่ยวตามรอยอย่างท่วมท้น สถานที่ที่ลิซ่าปรากฏตัว “ย่านเยาวราช” ได้กลายเป็นแลนด์มาร์กสุดฮิตที่ผู้คนจากทั่วสารทิศหลั่งไหลเข้ามาเช็กอินอย่างไม่ขาดสาย ทั้งแหล่งสตรีทฟู้ด ป้ายไฟสีสันยามค่ำคืน รวมถึง “โรงหนังออสการ์” อาคารเก่าที่ถูกทิ้งร้าง ตรงซอยเพชรบุรี 39 ซึ่งถูกเนรมิตให้เป็นพื้นที่ถ่ายภาพสุดฮิปบนบันไดเลื่อน ภายใน 6 ชั่วโมงมียอดวิวที่ทะลุ 10 ล้านวิว ส่งผลให้การค้นหาคำว่า “Yaowarat” บน Google พุ่งสูงแบบก้าวกระโดด ช่วยยกระดับไชน่าทาวน์ได้ฉายาใหม่คือ “ฮอลลีวูดเมืองไทย"

ร่วมแสดงในซีรีส์ชั้นนำระดับสากล เมื่อกุมภาพันธ์ 2568 ที่ได้เลือกใช้ไทยเป็นฉากหลังถ่ายทำในแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลอันงดงาม เช่น เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และเกาะเฮ จ.ภูเก็ต ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางทะเลและภาพลักษณ์การพักผ่อนแบบหรูหรา ด้ยภาพเช็กอินริมทะเลใสสะอาด มุมรีสอร์ทหรูสไตล์โมเดิร์น สวนเขียวชอุ่ม ตอบโจทย์ผู้ชื่นชอบพักผ่อนแบบลักชัวรีและกิจกรรมทางน้ำอย่างลงตัว โดยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเลือกมาเกาะสมุยไตรมาส 2 ปีนี้เพิ่มขึ้น 51 %



ลิซ่าออนทัวร์เยี่ยมชมเสน่ห์ “จังหวัดพระนครศรีอยุธยา” ปรากฏตัวในชุดผ้าไทยประยุกต์ตามวัดสำคัญ เช่น วัดมหาธาตุ วัดแม่นางปลื้ม วัดหน้าพระเมรุ จุดประกายเทรนด์ใหม่ “การนุ่งผ้าไทยเที่ยววัด” ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม พร้อมกับเร่งนักท่องเที่ยวเติบโตอย่างรวดเร็ว กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นมีรายได้เป็นรูปธรรม จากยอดขายผ้าซิ่น งานหัตถกรรมของที่ระลึก โครงการท่องเที่ยวชุมชน แล้วยังเพิ่มการรับรู้และความสนใจต่อมรดกโลกและประวัติศาสตร์ไทยอย่างมีประสิทธิภาพในวงกว้าง

ภาพยนตร์โฆษณาตัวอย่าง (Teaser) จากลิซ่า Amazing Thailand Ambassador ต้นเดือนมกราคม 2569 จะเพิ่มพลังเชิญชวนแฟนคลับและนักท่องเที่ยวเปิดมุมมองใหม่ สร้างแรงบันดาลใจให้นักท่องเที่ยวออกไปค้นหาและสัมผัสความสวยงามของเมืองไทยด้วยกัน 

ททท.-รัฐเอกชนรับคาราวานทัวร์รถ/บิ๊กไบค์มาเลเซียบูมหาดใหญ่สงขลา สตูล-เร่งโปรโมท HATYAI NEW YEAR 2026

ททท.-รัฐเอกชนหาดใหญ่รับคาราวานทัวร์รถ/บิ๊กไบค์มาเลเซีย บูมสงขลา-สตูลโปรโมทเคาน์ดาวน์ HATYAI NEW YEAR 2026 ททท.นำรัฐเอกชนหาดใหญ่ต้อนรับคณ...